หลักการคือ การตั้งเวลาจะต้องเขียนโค้ดที่ทำงานอยู่ภายใต้ฟอร์ม เพราะทุกฟอร์มจะมี TimerInterval property ซึ่งมีค่าเป็น long integer มีหน่วยเป็นมิลลิวินาที เมื่อเวลาผ่านไปตามกำหนดแล้ว Form_Timer event procedure จะถูกเรียกมาทำงาน วนอย่างนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าจะปิดฟอร์มไปหรือไปตั้งค่าให้ TimerInterval property เป็นศูนย์ ดังนั้นถ้าเราตั้งให้ TimerInterval มีค่าเป็น 1000 ซึ่งก็เท่ากับทุกๆ 1 วินาที Form_Timer event procedure จะทำงาน เราก็เขียนโค้ดใน Form_Timer event procedure ให้ตรวจว่าถ้าถึงเวลา 11 น.แล้ว ก็ให้ทำ Append query

สิ่งที่ต้องระวังก็คือ
1) การตรวจสอบว่าเท่ากับเวลา 11 น.ตรงเป๋งนั้น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยาก แนะนำว่าให้ทดสอบว่าอยู่ในช่วงหลัง 11 น.เป็นต้นไปน่าจะถูกต้องกว่า
2) ต้องเขียนให้โปรแกรมรู้ว่า วันนี้ทำงานไปแล้ว ไม่ต้องทำงานซ้ำอีก

ลองเอาหลักการนี้ไปเขียนดูก่อนนะครับ ติดขัดตรงไหนค่อยมาว่ากันอีกที หรือลองค้นกระทู้เก่าด้วยคำว่า Timer ก็ได้ครับ

วิธีที่อาจารย์บอกมาลองทำดูแล้วเราตั้ง timeinterval ให้นับได้ตามเวลาที่กำหนดยากจริงๆครับโดยเฉพาะ property นี้มันจะเริ่มนับตั้งแต่เปิดฟอร์มแล้ววนทำตสมคำสั่ง timer ที่กำหนดตามรอบไปเรื่อยๆเช่นตั้งให้ refresh ทุกๆ15 นาที แต่ผมอยากให้ทำตามคำสั่งก็ต่อเมื่อเวลาของระบบ เท่ากับ 11:00:00 ผมเลยลองเขียนโค้ดขึ้นโดยให้มีตัวแปร เช่น

Dim MyTime
Dim MyStr As String
Dim stDocName As String

stDocName = "Qr_TruckReport"
MyTime = Format(Time, "hh:mm") 'ใส่เวลาแล้วมันเติม AM:PM ให้มันไม่ทำงาน
MyStr = "11:00"

If MyStr = MyTime Then
DoCmd.OpenQuery stDocName, acViewNormal, acEdit

End If
โดยเขียนที่ property oncurent พอเวลาระบบเท่ากับ 11:00 'ตั้งเป็น short time' มันก็ยังไม่ทำงานทันทีแต่ต้องเปลี่ยน form ไปมาให้ form มันแอคทีฟ อีกครั้งแล้วลองไปดูที่ table ที่ตั้งให้ข้อมูล append ก็พบว่ามันทำงานแล้วครับ
ตอนนี้เลยอยากทราบว่าผมควรเอาโค้ดดังกล่าวไปวางไว้ที่ property อะไรดีมันถึงจะทำงานอัตโนมัติเมื่อถึงเวลาทันที ไม่ต้องมาสลับหน้า form เพื่อแอคทีฟมัน
อยากให้อาจารย์ช่วย modify โค้ดให้หน่อยคร้บ พ่วงกับ msgbox แจ้งการทำงานได้ยิ่งดีเลยครับ ขอบคุณครับ

- โค้ดจะอยู่ใน procedure ครับ ไม่ใช่เรียกว่า property

- บอกแล้วว่า มันจะไปทำงานที่ Form_Timer event procedure ครับ ไม่ใช่ Form_OnCurrent event procedure ดังนั้นจึงไม่มีการมานั่งคลิกให้มันต้องเป็นแอคทีฟฟอร์มอะไรทั้งสิ้น

- ใช้ฟังก์ชั่น Timer( ) ซึ่งจะให้ผลเป็นจำนวนวินาทีตั้งแต่เที่ยงคืน มาเป็นตัวทดสอบเวลา 11 น. ได้ (เท่ากับ 39600 วินาทีหลังเที่ยงคืน) นั่นคือ

Private Sub Form_Timer()
   Static Done     As Boolean

   If (Timer( ) <= 39600) and (Done) then
      Done = False
   ElseIf (Timer( ) > 39600) and (Not Done) then
       DoCmd.OpenQuery ....
       Done = True
   End If
End Sub

อาจารย์ครับจากที่บอกมาถ้ามีการเปลี่ยนกะของผู้ใช้โปรแกรมตัวนี้ต้อง logoff เครื่องแล้วเปิดใหม่เพื่อเข้ารหัสของตนเอง หรือบางครั้งถ้าจำเป็นต้องปิดเครื่องแล้วถ้าเปิดมาใหม่ฟอร์มจะนับเวลาใหม่และฟังชั่นนี้จะมีผลก็ต่อเมื่อนับครบ 39600 มิลลิวินาทีอีกครั้งจึงจะทำคำสั่งนี้หรือเปล่าครับเพราะเราไม่สามารถทราบได้ว่าผู้ใช้จะปิดเครื่องและเปิดอีกทีเมื่อไหร่ครับ

โปรแกรมนี้ทำงานภายใต้ Access ถ้าไม่เปิดก็ทำงานไม่ได้ ถ้า logoff แล้ว logon ใหม่ ก็ทำให้รันคิวรี่ซ้ำก็ได้เช่นกัน .. ถ้าอย่างนั้นคุณควรจะตั้งให้โปรแกรมถูกเรียกใช้จาก Windows Scheduling แทน และโปรแกรมก็ไม่ต้องมีฟอร์มอะไรเลย ทำเป็นแค่แมโคร ซึ่งมีเฉพาะคำสั่งเพื่อรันคิวรี่และออกจากโปรแกรมเท่านั้น ส่วน command-line ที่เรียกก็ใช้ drive:\path\path\...\msaccess.exe /x ชื่อแมโคร

อาจารย์ครับผมลองเอาโค้ดของผมไปวางไว้ที่ event procedure ของ Timer
ครับแล้วตั้ง Time Interval = 1000 (1นาที)เพื่อให้มันตรวจสอบว่าถึงตามที่กำหนดหรือยัง และเปลี่ยน format ของเวลาเป็น Long Time ที่ต้องเปลี่ยนเพราะเวลาผมคีย์ #11:00:00# มันจะเปลี่ยนเป็น #11:00:00 AM# ไม่ก้อ #23:00:00PM# อัตโนมัติเลยครับทั้งที่ผมเปลี่ยนเวลาระบบเป็น Short Time แล้วตอนนี้ลองใช้แล้วไม่มีปัญหาครับ แต่ผมไม่เก่งเรื่องโค้ดเลยอาจยังหาวิธีเขียนหรือฟังชั่นที่กระชับกว่านี้ไม่ได้ครับ รู้สึกว่าน่าจะใช้พวก select case จะสั้นกว่านี้
ถ้ามีปัญหาอีกจะขอเข้ามาถามอีกนะครับ
Private Sub Form_Timer()
Dim MyTime
Dim MyStr1, MyStr2, MyStr3, MyStr4, MyStr5, MyStr6, MyStr7, MyStr8 As String
Dim stDocName As String

stDocName = "Qr_TruckReport"
MyTime = Format(Time, "hh:mm:ss")
MyStr1 = "08:00:00"
MyStr2 = "11:00:00"
MyStr3 = "14:00:00"
MyStr4 = "17:00:00"
MyStr5 = "20:00:00"
MyStr6 = "23:00:00"
MyStr7 = "02:00:00"
MyStr8 = "05:00:00"

If MyStr1 = MyTime Or MyStr2 = MyTime Or MyStr3 = MyTime Or MyStr4 = MyTime Or MyStr5 = MyTime Or MyStr6 = MyTime Or MyStr7 = MyTime Or MyStr8 = MyTime Then
MsgBox "This time is ontime, press OK ", vbInformation + vbOKOnly, "Confirmation Box"
DoCmd.OpenQuery stDocName, acViewNormal, acEdit
End If
End Sub

- 1000 มิลลิวินาที = 1 วินาทีครับ ไม่ใช่ 1 นาที

- การเช็คเวลา (หรือวันที่ หรือวันที่พร้อมเวลา) ไม่ควรเปรียบเทียบตรวจสอบในรูปแบบของ string มันไม่ใช่รูปแบบที่เหมาะสม ควรใช้ฟังก์ชั่น Time หรือ Timer (อย่างที่ผมในตัวอย่างก่อนหน้า) เพราะนำไปเปรียบกับค่าคงที่ที่มีรูปแบบแน่นอนได้ง่ายกว่า เช่นฟังก์ชั่น Time จะคืนค่าเป็นประเภทข้อมูลของ Variant (มี sub data type เป็นประเภท Date) ซึ่งเอาไปเปรียบกับค่าคงที่ของเวลาในรูปแบบ #ชม:นาที:วินาที# ได้เหมาะสมกว่า (เวลาป้อนค่าคงที่ของเวลา (หรือวันที่) แล้วมันแปลงให้ มี AM , PM ออกมาก็ช่างมันนะครับ ไม่เป็นไร) ดังนั้นถ้าเทียบกับโค้ดที่คุณเขียนแล้ว ก็น่าได้เป็น

    Dim T   As Variant
    
    T = Time
    If (T = #8:00:00 AM#) Or (T = #10:00:00 AM#) Or (T = #2:00:00 PM#) Then
       ...    
       ...    
       ...    
    End If

แต่อย่างที่ผมบอก การจะทดสอบเวลาให้ได้ตรงเปี๊ยะๆในระดับวินาที มันอาจไม่ได้อย่างที่คิด ทำให้คิวรี่ไม่ทำงานก็เป็นไปได้

ผมเขียนผิดครับต้องเป็น 1 วินาทีตามที่อาจารย์บอกครับแต่โค้ดที่ผมเขียนใช้ได้ปกติตามเวลาที่กำหนดเลยครับเพราะทุกวินาทีที่กำหนดตรง timeinterval ถ้าเงื่อนไขตรงตามโค้ดมันจะทำงานทันทีเลยครับและมี msgbox ขึ้นเตือนว่ามีการทำงานตอนแรกมันเตือนในเรื่อง actionquery ด้วยครับผมเลยเอาติ๊กใน tool,option,actionquery ออกมันก็เลยเตือนเฉพาะที่ต้องการแล้วหลังจากใช้มาจนถึงวันนี้ยังไม่มีปัญหาอะไรขอแค่ ณ เวลาตามที่โค้ดกำหนด อย่า backup,ปิดเครื่อง,และภาวนาอย่าให้ไฟดับก็พอครับ พอลองเข้าไปตรวจใน table ที่มีการ append ก็พบข้อมูลตามต้องการเนื่องจากผมเพิ่ม field ให้ขึ้นเวลาปัจจุบันที่ทำการ append ไว้ด้วย แต่จะลองใช้โค้ดของอาจารย์ดูครับจะได้ลดขั้นตอนการเขียนโค้ดลงไม่ต้องแปลงเป็น string ก่อน ขอบคุณครับตอนนี้ผมเริ่มจะศึกษาเรื่องโค้ดมากขึ้นเพราะรู้สึกว่ามันทำอะไรได้เยอะแต่ยังมีโค้ดอีกเยอะที่ไม่รู้จักและไม่รู้ว่ามันใช้ทำอะไรถ้ามีหนังสือที่ลงรายละเอียดเกี่ยวกับ codelist อย่างละเอียดคงดีครับเพราะคนที่ไม่ได้เรียนมาทางนี้แต่จำเป็นต้องใช้ในการทำงานจะได้ใช้ประโยชน์ได้เต็มที่

ลองปรับตามแบบของอาจารย์แล้วครับสุดยอดไปเลยครับตอบโจทย์เลยครับแถมยังเขียนโค้ดน้อยลงไม่ต้องแปลง format ให้ยุ่งยากแต่กลับให้ผลสำเร็จเหมือนกันแล้วตอนนี้ผมลองเอาบรรทัดของ msgbox ลงมาวางต่อจากบรรทัดที่ให้ append query
ยิ่งทำให้เวลาที่บรรทึกใน table ตรงเป็ะเลยครับ ก่อนหน้านี้มันหย่อน 2 วินาทีครับอาจเป็นเพราะก่อนนี้ต้องกด ok ที่ msgbox ก่อนค่อยมาทำ query แต่พอสลับบรรทัดมันเลยทำ query ณ เวลาที่กำหนดไว้ตามเวลาก่อนแล้วค่อยโชว์ msgbox
คราวหน้าคงต้องขอรบกวนอีกนะครับอย่าเพิ่งรำคาญ ขอบคุณครับ

ระวังไว้นะครับ ยังไงผมก็ยืนยันว่ามันอาจตรวจสอบไม่ได้ตรงเวลาอย่างที่ว่าไว้ เพราะว่า ระบบ Time Interval ของ Access เอง มันจะทำงานได้ตรงเวลาก็ต่อเมื่อเครื่องว่างจากงานอื่นๆแล้วเท่านั้น ถ้ายังใช้อัลกอริธึมแบบเดิม คุณต้องยอมรับในผลที่ว่าบางช่วงเวลา คิวรี่ของคุณอาจไม่ได้ทำงานนะครับ