แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - ศรี-นคร

หน้า: [1]
1
หาจนเจอครับ มันเป็นรูปแบบของ UnixTime ซึ่งเป็นรูปแบบวันที่ บน MySQL
จึงเอามาฝากใว้ให้เพื่อนสมาชิก เผื่อว่า ติดปัญหาเดียวกัน
vDate =  ([StartTime]/86400)+#01/01/1970#

แหล่งที่มา
https://codebeautify.org/unix-time-stamp-converter
โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Un, Max

2
ลองศีกษาฟังชั่น DateDiff() ดูครับ สิ่งที่จะได้คือเวลาที่สาย
จากนั้นใช้คำสั่ง If เพื่อใช้คัดกรองผู้ที่มาสาย = 1

ลองเพิ่มรูปแบบคำสั่งนี้เข้าไปใน Query ดูครับ LateChk: IIf(DateDiff("n",[StrtWrk],"08:00")<0,"1","")





ขอขอบคุณความรู้เกี่ยวกับ MS-Access จาก อ. สุภาพ ไชยา
ก็ฝากไว้เผื่อจะสามารถช่วยให้มิตรรักแฟนเพลงท่านหนึ่งท่านใด ก้าวพ้นปัญหาที่กำลังแก้อยู่ได้เร็วขึ้น
โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: UnKnown, MiKu, apirak

3
ปัญหานี้น่าจะเหมือนกับที่ผมเคยใช้ Tab Delimit เป็นตัวแบ่งข้อมูลใน Text file ที่ส่งออกทำให้การนำเข้าข้อมูลข้อไฟล์นี้ผิดพลาดไป
ปัจจุบันนี้ผมเปลี่ยนมาใช้เครื่องหมายคอมม่า (,) แทนยังไม่เจอปัญหาดังกล่าวเลย

ส่วนการเขียนโค๊ดเพื่อส่งออกข้อมูลยังมีความต้องการให้แนะนำอีกหรือเปล่าครับ
หากต้องการจะทำตัวอย่างเพื่อโพสประกอบคำแนะนำ เพราะมันมีเทคนิคประกอบการเขียนโค๊ดนิดหนึ่ง ซึ่งต้องใช้รูปประกอบด้วยครับ เพื่อความเข้าใจง่าย
โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Un

4
โดยมากแล้วผู้ถามจะออกมาในลักษณะเดียวๆ กันคือ อยากถาม แต่ตั้งคำถามไม่เคลียร์ หรือให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน ทำให้ไม่มีคนตอบ หรือนานกว่าจะตอบ หรือบางทีก็ไม่อยากตอบซะงั้น
จึงอยากจะแจ้งให้เพื่อนมิตรรักแฟนเพลงทุกท่าน หากต้องการจะให้มีคนตอบคำถามของท่าน ควรให้ข้อมูลและรายละเอียดให้ครบถ้วน
คนที่จะให้คำแนะนำจะได้เข้ามาตอบคำถามที่ท่านสงสัยได้เร็วขี้น

เอาละ ขอถามกลับ
คุณมีเครื่องอ่านข้อมูลจากบัตรประชาชนแล้วหรือยัง
ถ้ามีคุณอ่านอะไรออกมาได้บ้าง และต้องการเอาอะไรไปเก็บใน Table บ้างครับ
โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: มาลี

5
ขออนุญาตร่วมตอบข้อสงสัยครับ
เทคนิคทีผมใช้อยู่นี้จำไม่ได้ว่า เอาจากตัวอย่างจากเว็บต่างประเทศหรือของ อ. สุภาพ ไชยา แต่อย่างไรเสียคือขอนำมาเล่าสู่กันฟังนะครับ
หลักการเดิมมีอยู่ว่า ถ้าเราต้องการเอาข้อมูลที่ต้องการพิมพ์ออกทางรายงานนั้น โดยปกติคือจะเป็นข้อมูลที่เราเลือกเท่านั้นครับ และเป็นเพียงหน้า Report 1 ชุดเท่านั้น
แต่โจทย์นี้คือต้องการพิมพ์ข้อมูลต้นขั้วเดิมที่เลือก แต่ต้องการสำเนาตามจำนวนที่ต้องการพร้อมรันเลขที่ด้วย

เทคนิคที่ผมจะแนะนำวันนี้คือ เราจะมีการสร้าง Temp Table วางคู่แทรกเข้าไปในข้อมูลที่ต้องการสร้าง Label ในตัวอย่างนี้คือ LabelRun



จำนวน Label จะเกิดนั้นมีตามจำนวน record ที่เรา Add เข้าไปใน Table : LabelRun และใน Table ก็จะมีฟิลด์ที่ชื่อ LabelNo



ส่วนที่หน้าจอสำหรับ User นั้นเราก็สร้าง textbox เพื่อให้ผู้ใช้กรอกจำนวนที่ต้องการพิมพ์ได้ตามต้องการ



และใส่ Code เข้าใน CommandButton โดยอาศัยคำสั่ง For..Next
Private Sub Command0_Click()
    Dim rst1 As DAO.Recordset
   
    Dim vNo As Long
   
    Dim dbs As Database
    Set dbs = CurrentDb()
   
    DoCmd.SetWarnings False
    DoCmd.RunSQL "DELETE * FROM LabelRun"
    DoCmd.SetWarnings True
   
    Set rst1 = dbs.OpenRecordset("SELECT * FROM LabelRun")
   
    For vNo = 1 To Me.Text1 Step 1
        rst1.AddNew
        rst1!LabelNo = vNo
        rst1.Update
    Next
   
    rst1.Close
    Set rst1 = Nothing
   
    DoCmd.OpenReport "Report1", acViewPreview
   
End Sub

และสิ่งที่ต้องทำเพิ่มเติมคือเปิด DAO library ขื้นมาใช้ด้วย เนื่องจากมีการอ้างอิงเพื่อใช้ Recordset โดยเลือกจากเมนู Tools-->Reference



เมื่อลองคลิ๊กดูก็จะได้รายงานออกมาหน้าตามประมาณนี้ครับ
ไม่ต้องแปลกใจนะครับ ถ้าเปิดออกมาแล้วจะเห็นแค่ Label อันเดียว ซึ่งมันเป็น Defualt ของ Access ที่จะให้โชว์หน้าแรก ส่วนหน้าอื่นต้องเลื่อนเอา แต่ถ้าเราสั่งพิมพ์มันก็จะพิมพ์ออกมาทุกหน้า

ส่วนรูปที่ผมแสดงให้เห็นนี้คือผมเลือกให้มีการแสดงหน้า Report หลายหน้าพร้อมกันโดยเลือกจากเมนูข้างบนครับ



ขอขอบคุณความรู้เกี่ยวกับ MS-Access จาก อ. สุภาพ ไชยา
ก็ฝากไว้เผื่อจะสามารถช่วยให้มิตรรักแฟนเพลงท่านหนึ่งท่านใด ก้าวพ้นปัญหาที่กำลังแก้อยู่ได้เร็วขึ้น


โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: BARBIEKA

6
ห้อง Ms Access อื่นๆ / Link MDB File
« เมื่อ: 05 ก.พ. 62 , 10:34:01 »
สำหรับองค์กรหรือหน่วยงานขนาดเล็ก-ขนาดกลาง ที่ต้องการใช้ข้อมูลร่วมกันในหลายส่วนหรือแผนก
หากต้องเชื่อมฐานข้อมูลไปยัง mdb ไฟล์ที่เก็บไว้ Server หรือ Share folder ที่ส่วนกลาง
สามารถทำได้ 2 วิธีครับ

วิธีที่ 1 คือทำการคลิ๊กขวาที่ Tab : table เลือก Link Tables

วิธีที่ 2 คือเชื่อมต่อผ่าน ODBC โดยมีหลักการมีดังนี้ครับ
- ขั้นตอนที่ 1 สร้าง ODBC เพื่อ Connect ไปยัง MDB ไฟล์ที่ต้องการเชื่อมข้อมูล
- ขั้นตอนที่ 2 ทำการ Link Table เข้ามาในไฟล์ Front End ที่กำลังใช้งานอยู่
- ขั้นตอนที่ 3 ในหน้าเขียนโค๊ด VBA ให้ติ๊กเลือก Tools --> Reference --> Microsoft DAO 3.6 Object libray

##################################
เมื่อต้องการจะจัดการกับข้อมูลใน Table สามารถใช้รูปแบบดังนี้

    Dim rst1, rst2, rst3, rst4, rst5, rst6, rst7, rst8 As DAO.Recordset

    Dim dbs As Database
    Set dbs = CurrentDb()
   
    Set rst1 = dbs.OpenRecordset("SELECT * from Table1")
    'Add
    rst1.addnew
    rst1!Filed1 = "Test"
    rst1.update

    'Edit
    rst1.edit
    rst1!Filed1 = "Test"
    rst1.update

    'Del
    rst1.Delete

    rst1.close
    Set rst1 = nothing

โดยเราจะต้องใส่ Password ไว้ที่ ตรงที่ไฟล์ mdb ที่ Share ไว้ที่ส่วนกลางนั้นไว้ด้วย เพราะเดี๋ยวมีใครซุกซนเข้าไปแก้ไขข้อมูลเดี๋ยวงานจะเข้า
และมีข้อควรระวังอยู่หลายเรื่องคือ
- จะต้องทำการ Compact ข้อมูลทุกวันเพื่อให้ระบบทำการ Clean up record ที่โดนลบระหว่างวันออกไป
- ต้องมีการ Backup ข้อมูลทุกวันเพราะเมื่อไฟล์ชำรุดจะไม่สามารถเปิดไฟล์ได้เลย ไม่ว่าจะรู้ Password ก็ตามต้องใช้ tools พิเศษซ่อม และ Relation ระหว่าง Table จะเสียต้องเข้าไปไล่หาว่า Link ที่เสียหายนั้น หายไปที Table อะไร ต้องทำการสร้าง Relation นั้นใหม่ ซึ่งอาจจะมีปัญหาเพิ่มเติมมาอีกตรงที่มี Record บางอันเกินมาทำให้ไม่สามารถเชื่อมความสัมพันธ์ได้ ต้องลบทิ้งก่อนทำการเชื่อม แล้วค่อยคีร์เข้าไปใหม่
สามารถตรวจสอบได้โดยการสร้าง Query Unmatch เพื่อให้ทราบว่ามี record ใดบ้าง
- เมื่อฐานข้อมูลชำรุด Data unrecognized ต้องให้ User ออกจากระบบทั้งหมดแล้ว Restart เครื่องคอมฯ ที่ Share ไฟล์นั้นเพื่อยกเลิกการเชื่อมต่อมายัง โฟลเดอร์ดังกล่าว ทำการปิด Share สำหรับ User ทุกคน ยกเว้น User ที่ดูแลระบบแล้วจึงทำการปรับซ่อมไฟล์ให้แล้วเสร็จ จากนั้นค่อยทำการเปิด Share กลับมาเหมือนเดิม ปัญหาใหญ่มันจะอยู่ที่ไฟล์ที่ชำรุดนั้นจะเปิดไม่ได้ต้องใช้ Tool ที่เป็นไฟล์ข้างนอกทำการปรับซ่อมสถานเดียว ถ้าไม่มีจึงไม่แนะนำให้ใช้การ Share ข้อมูลวิธีนี้ โดยจะต้องทำทันทีเดี๋ยวนั้นเลย ก่อนที่ข้อมูลจะพังจนสายเกินแก้ หากไม่เก่งพอหรือไม่มี Tool อยู่ในมือ ไม่แนะนำให้ใช้การ Share ข้อมูลแบบนี้เพราะนั้นหมายถึงคุณต้องเอาไฟล์ Backup กลับมาใช้ นรกจะบังเกิดทันที
- เมื่อมีคนใช้งานรวมกันมากขึ้น การเปิด-เขียนข้อมูลจะช้าลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากตัว MS-Access จะมีการ Lock Record ที่ User แต่ละคนกำลังใช้งานอยู่ในขณะนั้น
- ความแรงและความเร็วในการอ่านเขียนของเครื่องที่ Share ไฟล์ก็จะมีผลเรื่องความเร็ว ในการอ่าน-เขียนด้วยนะครับ
- การออกแบบระบบ Network และคุณภาพ,ความเร็วของ Network ก็มีผลกับความบ่อยของการชำรุดของไฟล์ที่แชร์ด้วย ถ้าไม่ดีหรือไม่เสถียรก็จะมีปัญหาบ่อย
- ส่วนการตั้งรหัสผ่าน mdb ไฟล์สามารถค้นหาอ่านได้จากข้อมูลเก่าของ อ. สุภาพ ไชยาครับ

จะเห็นว่า มีเงื่อนไขและรายละเอียดการใช้งานค่อนข้างเยอะ จึงไม่แนะนำให้ใช้การ Share วิธีนี้ เลี่ยงได้ก็ควรจะไปใช้ SQL Server จะดีกว่าได้ความเร็วและเสถียรกว่ากันเยอะ แต่ก็ต้องเตรียมเรื่องของ Server และ License

############################
Tool ที่ว่าผมมี หากต้องการให้ Post ขอด้านล่างนะครับเพราะจะให้คนที่ต้องการเท่านั้น ไม่ให้พร่ำเพรื่อ

ขอขอบคุณความรู้เกี่ยวกับ MS-Access จาก อ. สุภาพ ไชยา

ก็ฝากไว้เผื่อจะสามารถช่วยให้มิตรรักแฟนเพลงท่านหนึ่งท่านใด ก้าวพ้นปัญหาที่กำลังแก้อยู่ได้เร็วขึ้น
โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Chatthadon

7
ห้อง Ms Access อื่นๆ / Link SQL Server
« เมื่อ: 28 ม.ค. 62 , 15:51:06 »
หากต้องเชื่อมฐานข้อมูลจาก SQL Server โดยตัว Front End เป็น MS-Access

หลักการมีดังนี้ครับ
- ขั้นตอนที่ 1 สร้าง ODBC เพื่อ Connect ไปยัง MySQL Server
- ขั้นตอนที่ 2 ทำการ Link Table เข้ามาในไฟล์ Front End ที่กำลังใช้งานอยู่
- ขั้นตอนที่ 3 ในหน้าเขียนโค๊ด VBA ให้ติ๊กเลือก Tools --> Reference --> Microsoft DAO 3.6 Object libray

เมื่อต้องการจะจัดการกับข้อมูลใน Table สามารถใช้รูปแบบดังนี้

    Dim rst1, rst2, rst3, rst4, rst5, rst6, rst7, rst8 As DAO.Recordset

    Dim dbs As Database
    Set dbs = CurrentDb()
   
    Set rst1 = dbs.OpenRecordset("SELECT * from Table1", dbOpenDynaset, dbSeeChanges)
    'Add
    rst1.addnew
    rst1!Filed1 = "Test"
    rst1.update

    'Edit
    rst1.edit
    rst1!Filed1 = "Test"
    rst1.update

    'Del
    rst1.Delete

    rst1.close
    Set rst1 = nothing

จะเห็นว่า มีรูปแบบคำสั่ง    ", dbOpenDynaset, dbSeeChanges)   ต่อท้ายเพิ่มขึ้นมานิดหน่อย

ขอขอบคุณความรู้เกี่ยวกับ MS-Access จาก อ. สุภาพ ไชยา

ก็ฝากไว้เผื่อจะสามารถช่วยให้มิตรรักแฟนเพลงท่านหนึ่งท่านใด ก้าวพ้นปัญหาที่กำลังแก้อยู่ได้เร็วขึ้น
โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Un, laemthong, paitoon

8
ห้อง Ms Access อื่นๆ / : Link MySQL
« เมื่อ: 28 ม.ค. 62 , 14:27:21 »
ก็ฝากไว้เผื่อจะสามารถช่วยให้มิตรรักแฟนเพลงท่านหนึ่งท่านใด ก้าวพ้นปัญหาที่กำลังแก้อยู่ได้เร็วขึ้น
โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Un, Surapong J Noom

9
ห้อง Ms Access อื่นๆ / Link MySQL
« เมื่อ: 28 ม.ค. 62 , 14:21:19 »
พอดีไปเจอโจทย์ใหม่ คือต้องเชื่อมฐานข้อมูลจาก MySQL มาที่งานเก่าที่เป็น SQL Server โดยตัว Front End เป็น MS-Access
งมอยู่พักใหญ่ ในที่สุดก็สามารถทำได้

หลักการมีดังนี้ครับ
- ขั้นตอนที่ 1 ต้องลง Driver ของ MySQL ที่เครื่องก่อน ณ. วันที่โพสนี้มี 2 เวอร์ชั่น คือ v.3.1.5 , 8.0 แนะนำเป็นเวอร์ชั่น 3.1.5
- ขั้นตอนที่ 2 สร้าง User ที่สามารถเข้าถึงฐานข้อมูลให้เรียบเรียบก่อนพร้อมทดสอบ และอย่าเปลี่ยนสิทธิ์ของ User ที่ว่านี้ให้เป็น Full ด้วยเครื่องหมาย %
- ขั้นตอนที่ 3 สร้าง ODBC เพื่อ Connect ไปยัง MySQL Server
- ขั้นตอนที่ 4 ทำการ Link Table เข้ามาในไฟล์ Front End ที่กำลังใช้งานอยู่
- ขั้นตอนที่ 5 ในหน้าเขียนโค๊ด VBA ให้ติ๊กเลือก Tools --> Reference --> Microsoft DAO 3.6 Object libray

เมื่อต้องการจะจัดการกับข้อมูลใน Table สามารถใช้รูปแบบดังนี้

    Dim rst1, rst2, rst3, rst4, rst5, rst6, rst7, rst8 As DAO.Recordset

    Dim dbs As Database
    Set dbs = CurrentDb()
   
    Set rst1 = dbs.OpenRecordset("SELECT * from Table1")

    'Add
    rst1.addnew
    rst1!Filed1 = "Test"
    rst1.update

    'Edit
    rst1.edit
    rst1!Filed1 = "Test"
    rst1.update

    'Del
    rst1.Delete

    rst1.close
    Set rst1 = nothing

ขอขอบคุณความรู้เกี่ยวกับ MS-Access จาก อ. สุภาพ ไชยา
โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Surapong J Noom

หน้า: [1]