กรณีบ้านเลขที่ 21,22 หรือ 22/1-2 เพื่อให้ใช้ , - / และช่องว่าง(spacebar) ได้แก้ตรงโค้ดใหม่ประมาณนี้ครับ

Private Sub TextBox1_AfterUpdate()
     Dim i As Integer
     Dim strText As String
     Dim strMessage As String
     strText = Me.TextBox1.Value
     For i = 1 To Len(strText)
           If Asc(Mid(strText, i, 1)) < 44 Then
                If Asc(Mid(strText, i, 1)) <> 32 Then
                strMessage = "กรุณาพิมพ์เฉพาะภาษาไทยเท่านั้น"
                MsgBox strMessage, vbExclamation, "ข้อผิดพลาด"
                Me.TextBox1.SetFocus
                Exit Sub
                End If

           ElseIf Asc(Mid(strText, i, 1)) > 57 Then
                If Asc(Mid(strText, i, 1)) < 128 Then
                strMessage = "กรุณาพิมพ์เฉพาะภาษาไทยเท่านั้น"
                MsgBox strMessage, vbExclamation, "ข้อผิดพลาด"
                Me.TextBox1.SetFocus
                Exit Sub
                End If
           End If
     Next i
End Sub

---

ปล.ดูจาก ตาราง Ascii ภาษาไทย อังกฤษ แล้วเพื่อใช้พวกวงเล็ป(),เครื่องหมายคำพูด "..." และอื่นๆอีกไม่กี่ตัวก็แก้โค้ดแรกตรง < 48 เดิมมาเป็น < 32 ไปเลยไม่ต้องมาซ้อน if เพิ่มแบบอันใหม่นี้ 

ถ้าจำเป็นต้องแยก Front / Back มีการใช้งานร่วมกันนั้นตัว Front-End พอจะป้องกันได้ตามที่ อ.OddyWriter แนะนำครับ
แต่ตัว Back-end ถ้ายังคงเป็น Access ผ่านการ map network drive จะทำหน้าฟอร์มใส่รหัสผ่านก็ไม่มีผลเนื่องจากจะไปป้องกันการกด F11,Shift ก็ไม่เหมาะเพราะมันคือฐานข้อมูลที่ผู้ดูแลอาจจะต้องมีการเข้าไปแก้ไข

แล้วถ้าทำ Back-end ให้เป็น MySQL หรือ SQL Server ล่ะโอเครไหม  // ขั้นตอน,วิธีการใช้งาน,ข้อดี-ข้อเสีย หาข้อมูลดูครับ
จะได้ Back-end ที่ไม่ต้อง map drive ไม่มีไฟล์ให้เข้าไปดูหรือคัดลอก แต่ใช้เข้าดู,แก้ไขผ่านหน้าเว็บหรือโปรแกรมฐานข้อมูลนั้นๆที่เราสามารถตั้งรหัสผ่านป้องกันได้โดยปริยายครับ

แนบไฟล์ที่ใช้ทดสอบมาทีครับ จะลองปริ้นดู

ไปค้นเจอวิธีการตั้งค่า LQ-310 มาล่ะ 
ซึ่งนี่ใช้ค่าโรงงานเลยอ่ะ - รหัสตัวอักษร: เกษตร(KU42) /- รูปแบบตัวอักษร: บุษบา/Roman-T /- 10 ตัวอักษรต่อนิ้ว

นี่ก็ใช้ LQ310 โดยที่หน้าเครื่องตั้ง : ไทยเกษมณี  //ค่าอื่นๆไม่รู้ว่าตั้งได้ที่ไหนนะนี่
ตัว Report ใช้ฟอนต์ TH SarabunPSK ปริ้นออกมาได้ไม่มีปัญหาอะไรครับ

-ชื่อเทเบิ้ลหรือฟิลด์ข้อมูลเป็นภาษาไทยหรือเปล่าครับ
-ภาษาตอนใส่รหัสผ่าน
-การค่าภาษาของตัว windows 11
-เป็นต้น

ไปค้นเจอ iLovePDF > https://www.ilovepdf.com/th/split_pdf
แยกไฟล์ PDF ตามช่วงของหน้า หรือแยกทุกหน้าในไฟล์ PDF ออกเป็น PDF หลายๆไฟล์ แยกไฟล์ PDF ออนไลน์ ทั้งง่ายและฟรี.

ใช้งานง่ายดีนะครับ //ติดแค่ชื่อไฟล์

ไปค้นเจอโพสต์เก่า ตปท. 2017

https://www.experts-exchange.com/articles/30639/Dynamic-Printer-Selection-for-Access.html

ลิงค์โหลดไฟล์ Sample Access Database

ปล.โค้ดเขามัลติฟังก์ชั่น ลองไปแกะหรือรอตามบนครับ

หมายถึงมี Pop-up ขึ้นมาให้เลือกเครื่องพิมพ์ก่อนแล้วกด ตกลง
...
เดี๋ยวจะลองดูนะครับ

แนวทางคื่อใช้ Access เป็นฐานข้อมูล

Access เมื่อเพิ่มหรือแก้ไข้ข้อมูล = ข้อมูลอยู่ในตัวเอง

แล้วเมื่อ excel เพิ่มหรือแก้ไข้ข้อมูล <-> ส่งข้อมูลไปให้ Access // ลองศึกษาแนวทางดูครับ(ผมก็ใช้ excel ดึง,เพิ่มข้อมูลลูกค้าไปยัง Access)
CONNECT EXCEL AND MS ACCESS USING EXCEL VBA MACROS
[EP0] เริ่มต้น เขียนโปรแกรม excel vba ติดต่อฐานข้อมูล microsoft access

ปล.ในความคิดผม excel ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้เชื่อมต่อข้อมูลภายนอกตลอดเวลา เช่น เมื่อเปิดเอกสารมาก็ต้องสั่งให้ไปดึงข้อมูล , เมื่อเพิ่มหรือแก้ไขข้อมูลจะยังไม่ไปไหนถ้าเรายังไม่สั่ง ,
ถ้าเปิดไฟล์พร้อมกัน เมื่อ excel สั่งเพิ่มหรือแก้ไข้ข้อมูล Access รู้ตัวอัพเดทข้อมูลทันทีโดยที่ไม่ต้องสั่ง แต่ถ้า Access เพิ่มหรือแก้ไข้ข้อมูล excel จะไม่รู้สึกตัวอะไรเลยจนกว่าเราจะสั่ง

เครื่องคอมฯผมตั้งค่าแสดงวันที่เป็น US = แสดงผลออกเป็น ๒๐๒๔ เช่นกัน
จึงลองแกะโค้ดอ.TTT แล้วแก้ตรง
tDay(o, iCount) = cThaiNumber(Day(i)) & " " & MonthNameThai(i) & " " & cThaiNumber(IIf(Year(i) = Format(i, "yyyy"), Year(i) + 543, Format(i, "yyyy")))
ให้เหลือแค่
tDay(o, iCount) = cThaiNumber(Day(i)) & " " & MonthNameThai(i) & " " & cThaiNumber(Year(i) + 543)

ได้ผลลัพธ์เป็นปี ๒๕๖๗