แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Un

หน้า: 1 2 3 [4] 5 6
55
ลองดูตัวอย่างนี้ครับ พอดีค้นหาเจอจากเว็บนอก และเพิ่มเติมบางส่วนเช่นเลือกข้อมูลจากตารางพิกัส gps ลูกค้าให้ด้วยคับ
ตัวแผนที่อัพเดทล่าสุด 2019
Credit : Philben




โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Un

56
แนะนำช่องใน YouTube ที่ผมดูนะครับ

ช่อง: prasertcbs
สอน Excel เบื้องต้น
สอนเทคนิคการใช้งาน Excel
Excel เสริม

ช่อง: Duangporn Toy
List Excel

ช่อง: Saralee Pruksaritanon
List Excel

ช่อง: เทพเอ็กเซล : Thep Excel

ช่อง: Somkiat Foongkiat

ลองค่อยดูนะครับ เข้าใจไม่เข้าใจบ้าง ให้ผ่านหูผ่านตาก่อน ฝึกทำโจทย์บ่อยๆช่วยได้ครับ
โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Un

57
ตอบรวม 2 ท่านนะครับ

ข้อจำกัดหลัก ก็จะมีอยู่ 2 ข้อคือ
1. ความเร็วของอินเทอร์เน็ต
2. จำนวนผู้ใช้งานต่อไฟล์ ซึ่งตามสเปคของ Access คือ 255 คนต่อไฟล์

สำหรับความเร็วของอินเทอร์เน็ตนี่ช่วยอะไรไม่ค่อยได้ ถ้าจะใช้ดีใช้ผ่านสาย LAN แทน Wifi จะดีสุด
ส่วนจำนวนผู้ใช้งานนั้นผมใช้เรื่องการเขียนโปรแกรมและการแยก UI กับ Data ออกจากกัน เท่าที่ผ่านมาก็ไม่ค่อยพบปัญหานะครับ ปัญหาที่เจอคือเน็ตช้ากับเน็ตล่มครับ
โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Un

58
เสริมนิด เป็นทางเลือกนะครับ ถ้าเป็น VBA7 (ต่ำกว่านี้ไม่รู้ว่ามีป่าวนะ) ใช้คำสั่ง FileCopy("พาธชื่อไฟล์ต้นฉบับ", "พาธชื่อไฟล์ปลายทาง") ในการก๊อปปี้ไฟล์แบบง่ายๆ ได้เหมือนกัน
ข้อเสียคือ
1. ไม่มีตัวเลือกก๊อปปี้ทับไฟล์ชื่อซ้ำกันหรือไม่ จะเป็นการทับอย่างเดียว (หากเป็นงานที่ทับไฟล์เดิมอยู่แล้วก็ใช้ได้เลย)
2. ไม่รองรับอักษร Grave Accent เช่น è, à, Juné.jpg อย่างนี้คำสั่งจะไม่พบไฟล์
โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Un

59
เปลี่ยนจาก FileSystemObject.CopyFile เป็น CreateObject("Scripting.filesystemobject").CopyFile ครับ
โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Un

60
โทษที  คำสั่ง Name ใช้สำหรับเปลี่ยนชื่อไฟล์เท่านั้น ถ้าจะก็อปปี้ใหใช้ FileSystemObject.CopyFile "ไดร์ฟต้นทาง:\พาร์ธต้นทาง\......\ชื่อไฟล์ต้นทาง.jpg", "ไดร์ฟปลายทาง:\พาร์ธปลายทาง\.......\ชื่อไฟล์ปลายทาง.jpg"
โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Un

61
แต่ละเท็กซ์ไฟล์มีจำนวนฟิลด์/ชื่อฟิลด์/ประเภทข้อมูลเหมือนกันไหม ถ้าเหมือนกันหมด ก็อปปี้เท็กซ์ไฟล์เป็นไฟล์ชั่วคราว(สมมุติชื่อ T.txt) เทเบิลก็ให้ลิงค์ไปยัง T.txt   พอจะเปลี่ยนชื่อ ก็ลบ T.txt แล้วก็อปปี้ไฟล์อื่นมาเป็น T.txt แทน และ Refresh Link ตัวเทเบิลอีกครั้ง ผมว่าจะง่ายกว่า โค้ดก็คือ

Kill "เท็กซ์ไฟล์ชั่วคราว"
Name "เท็กซ์ไฟล์ใหม่", "เท็กซ์ไฟล์ชั่วคราว"
CreateObject("Scripting.filesystemobject").CopyFile "เท็กซ์ไฟล์ใหม่", "เท็กซ์ไฟล์ชั่วคราว"
CurrentDB.TableDefs("ชื่อเทเบิล").RefreshLink
โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Un

62
จนถึงตอนนี้ ผมก็ยังคงงงอยู่

สรุปแล้วคือคุณต้องการอย่างไรแน่ครับ

แบบนี้หรือเปล่า

1,2,3,...,24,25,1,2,3,...,24,25...

หรือ

0001,0002,0003,...,0024,0025,1001,1002,1003,...,1024,1025,...

ขอชัดๆ หน่อยครับ

งงระดับ 10 แล้ว
โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Un

63
อ้างถึง
1. หลักความแตกต่างระหว่าง " และ ' และ & คืออะไรครับ

 " และ '  เราเรียกว่า double quote และ Single quote ครับ สัญลักษณ์พวกนี้เป็นการบอกให้ทราบว่า คุณได้กำหนดช่วงของ ข้อความ หรือ String หรือ ตัวเลข หรือตัว Control จาก ไหน ถึง ไหน ครับ เช่น "..............." เป็นการบอกว่า ภายใน double quote นี้คือเนื้อหาส่วนเดียวกัน

ความแตกต่างของการใช้  " และ ยกตัวอย่างการใช้ Dlookup
เราจะใช้ ' ในการกรณีที่ อ้างถึงเขตข้อมูลที่เป็น string หรือข้อความ เช่น
DLookup("FieldName" , "TableName" , "Criteria= 'String'")

ในกรณีที่เป็น ตัวเลข เราจะใช้ " ในการกำหนดขอบเขตครับเช่น N คือตัวเลข
DLookup("FieldName" , "TableName" , "Criteria = n")

แต่ " " นี้ก็ไม่ได้ใช้กับตัวเลขเสมอไป เราจะใช้ในการกำหนด เริ่มต้นและสิ้นสุดของข้อความที่เรากำหนดได้เหมือนกันเช่น

msgbox "สวัสดีครับ",vbInformation,"ทักทาย"

& นั้นใช้ในการเชื่อมต่อกับส่วน อื่นๆของคำสั่ง เช่น ตัวแปร เชื่อมกับ Control / ข้อความเชื่อมกับ Control / กำหนด เชื่อมฟิลล์เข้าด้วยกัน เช่น Field1 & "/" & Field2  ก็จะได้ Field1/Field2เป็นต้น

อ้างถึง
2. ในกรณีนี้ทำไมต้องใส่ " " ที่ตอนต้นและตอนท้ายด้วยครับ เพราะดูในที่อื่น ก็ select * from  where ไม่เห็นต้องมี " " ปิดหัวท้ายเลย


คุณอ้างถึงตัวแปร Sql ที่เป็น string ซึ่ง ต้องมี " " ปิดหัวท้ายเพื่่อกำหนดขอบเขตของ String ที่เรากำหนดคับ

อ้างถึง
3. like '" & Nz(Me.tcombo, "*") & "'  --> รบกวนช่วยแปล Code นี้หน่อยครับ ไม่เข้าใจตรงการเขียน '" & XXX & "'
จากตัวอย่างนี้ลองสังเกตุ '" & XXX & "' การใส่ เครื่องหมาย  " และ ' ให้การ Control ที่เป็นข้อความคับ
Nz(Me.tcombo, "*") คือการกำหนดให้ตรวจสอบ Control ที่ชื่อ tcombo ครับโดยการกำหนดให้แสดงผลตามว่า tcombo ว่างหรือไม่ว่าง
ถ้า tcombo ไม่เป็นค่าว่าง สมมุติเราใส่ กรุงเทพ เงื่อนไขของ คำสั่งนี้คือ   like "กรุงเทพ" ซึ่ง ถ้าเขตข้อมูลไหนมีคำว่ากรุงเทพก็จะแสดงรายการออกมาครับ
แต่ถ้า tcombo เป็นค่าว่าง Nz Function ก็จะแทนค่าว่างด้วย * คือถ้าว่างก็ให้เงื่อนไขคือแสดงข้อมูลทั้งหมด

ผมตอบได้เท่าที่ผมนึกออกนะคับ  รออาจารย์ท่านอื่นมาเสริม
โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Un

64
ถ้าจะเขียนในลักษณะเดียวกับที่คุณมาลีเขียนมา ก็เขียนเป็น Forms!Main!Text2 = Text1

แต่โดยปกติผมจะเขียนเป็น Me.Parent!Text2 = Me.Text1 ครับ โดยที่ Parent หมายถึงเมนฟอร์มของฟอร์มปัจจุบันที่โค้ดเราอาศัยอยู่  (Me) ซึ่งตอนนี้เราอยู่ที่ซับฟอร์ม
โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Un

65
ยินดีครับ thai access บอร์ดแห่งการแชร์ประสบการณ์ การแบ่งปันและการเรียนรู้ครับ ผมเริ่มจากไม่เป็นเลยได้เรียนรู้จากบอร์ดนี้แหละครับ จนพอที่จะแนะนำได้บ้าง :meaw:
โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Un

66
ห้อง MS Access / : Function Year
« เมื่อ: 03 เม.ย. 62 , 11:06:14 »
ใช้ Year(Now()) ครับ
ถ้ามันได้ 2019 แต่อยากได้ 2562 ก็ ใช้เป็น

Year(Now())+543

หรือถ้าต้องการเปลียนจาก 2562 เป็น 2019 ก็ใช้
Year(Now())-543

หรือใช้ Format(Now(),"YYYY")

แต่ถ้าจะเอาจาก วันที่ Field Date ชื่อ DateIn
ก็กำหนดเป็น
Format(DateIn,"YYYY") ก็ได้คับ

โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Un

67
ใช่ครับ การใช้ DSum เป็นการเรียงลำดับ เพื่อคำนวนผลจาก Record ก่อนหน้า ออกมาตามลำดับ
ครับ
เช่น
โค๊ด: [Select]
RT: Format(DSum("Field1","Table1","ID<=" & [ID]),0)
โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Un

68
data type Field นั้นเป็นอะไรครับ ท่าน Un ลองกำหนด Format ที่ต้องการที่ Field นั้นดูครับ
โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Un

69
ห้อง MS Access / : input mark
« เมื่อ: 17 มี.ค. 62 , 14:02:23 »
ใส่ Input Mark ยังงัย ให้บันทึกไอดีต่างชาติ แบบนี้ได้ครับ

0-0000-T035991-3
น่าจะแบบนี้นะครับ
0\-0000\-A000000\-0;0;_
โดย A ใช้แทนตัวอักษรหรือตัวเลข 1 ตัวคับ

ผมใช้ Event Form_Load นะครับปกติ หรือกำหนดที่ตัว Control เลยก็ได้คับ
โค๊ด: [Select]
Private Sub Form_Load()
Me.Text2.InputMask = "0\-0000\-A000000\-0;0;_"
End Sub

ไม่รู้ผมตอบตรงโจทย์ หรือเปล่านะครับ
ไม่รู้ว่าต้องการแยก ID T0359913 เป็น 0-0000-T035991-3
หรือต้องการกำหนด InputMask แบบข้างบน  :cool: :cool:

โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Un

70
ครับ อาจารย์ผมไปเจอวิธีนี้จากเว็บต่างประเทศ ตรงกำหนดสีกับ ข้อความครับ
เลยเอามาประยุกต์ใช้กับโค้ดนี้ครับ
ส่วนโค้ดนี้ผมไปค้นหาเจอจาก เว็บนอกครับ
มาแบ่งบันให้กับเพื่อนๆสมาชิกคับ โดยเอามาปรับโค้ด จาก excel เป็น Access ครับ  :grin: :grin: :grin:
โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Un

71
https://drive.google.com/drive/folders/1J_P2DCrnDaQJDw5PHaddbtAX52xJCO4E?usp=sharing

sadsadeekabchoeng@hotmail.com
nk_0813kjmn@hotmail.co.th

โหลดใน Google drive ตาม link ได้เลยครับ.....
เป็น Zip ไฟล์   มี สอง ไฟล์ครับ  เป้นไฟล์ Setup.exe ของ Awara Thai Smart card reader และ ไฟล์ MS ACCESS ครับ
โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Un

72
Export TextFile ให้มี l ขั้นระหว่างกลางทำได้อยู่ครับไม่ยาก แต่ถ้าจะให้เข้ารหัส MD5 ผมก็ไม่เคยทำเหมือนกันครับผม
โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Un

หน้า: 1 2 3 [4] 5 6