อ๋อจริงด้วยครับ ของผมตั้งไว้ที่ Use Specifi Printer ต้องเลือกเป็น Default Printer ถูกต้องหรือเปล่าครับ

ใช่ครับคุณ Prajak

ฟอร์มนี้ข้อมูลมาจากตารางโดยตรงแน่เลย
เพราะปกติถ้าผ่านคิวรี่ตรงลบจะไม่แสดง
คำสั่งปิด ปุ่มลบตามนี้เลย


Private Sub Form_Load()
Form.Requery
Me.AllowDeletions = False
End Sub

ลองดูตัวอย่างนี้นะครับ น่าจะโอเคสุดละ

บน Module

Public Function RowNum(frm As Form) As Variant
On Error GoTo Err_RowNum
   
    With frm.RecordsetClone
        .Bookmark = frm.Bookmark
        RowNum = .AbsolutePosition + 1
    End With
   
Exit_RowNum:
    Exit Function
   
Err_RowNum:
    If Err.Number <> 3021& Then
        Debug.Print "RowNum() error " & Err.Number & " - " & Err.Description
    End If
    RowNum = Null
    Resume Exit_RowNum
End Function

ที่ textbox ชื่อ NO ใส่ =RowNum([Form])
ตัวอย่างด้านล่าง

ลองดูตัวอย่างนี้นะครับ
ผมลองกรองแล้วก็ยังรันปกติ
ผมใส่ Code ดังนี้

Private Sub Form_Current()
Me.No.ControlSource = "=RunNumber([Sale_Index])"
End Sub

Sale_Index คือชื่อ Control ครับ
No คือชื่อ Unbound textbox

ถ้าตารางมีฟิลด์ที่เป็น AutoNumber อยู่แล้วก็ไม่ต้องทำการเพิ่มฟิลด์ AutoNumber นะครับ
แต่ถ้าไม่มีให้ทำตามนี้
1. เพิ่มฟิลด์ myNum มีข้อมูลเป็น AutoNumber
2. นำฟิลด์ myNum มาใส่ในฟอร์ม ตั้งชื่อว่า myNum
3. ใส่ Code นี้เข้าไปใน Standard Module
=================================================
Option Compare Database
Option Explicit

Function myRunningSum(myForm As Form, myFieldName As String, myFieldNumber)
    Dim RS As Object
    Dim myCount As Integer
        On Error GoTo Err_myRunningSum
        Set RS = myForm.Recordset.Clone
        RS.FindFirst "[" & myFieldName & "] = " & myFieldNumber
            Do Until RS.BOF
                myCount = myCount + 1
                RS.MovePrevious
            Loop
End_myRunningSum:
    myRunningSum = myCount
Exit Function
Err_myRunningSum:
    myCount = 0
Resume End_myRunningSum
End Function
========================================

4. เพิ่ม Unbound Text Box แล้วใส่คำสั่งนี้เข้าไป Control Source
=myRunningSum([Form],"myNum",[myNum])

รับทราบครับ

ถ้าเป็นอย่างนี้ แสดงว่าต่อไปถ้าข้อมูลในคอลั่มของเรามีความหลากหลายมากเกินไป เราควรจะต้องทำ Filter ขึ้นมาใช้เองหรอครับ
หรือว่าต้องทำอย่างไรให้สามารถ filter ข้อมูลที่มีความหลากหลายได้ครับ

ใช่ครับ เราสามารถ Filter ข้อมูลโดยใช้ ComboBox หรือ Textbox ค้นหา ข้อมูลที่เราต้องการก่อนได้ครับ

ผมสงสัยครับว่าไฟล์ที่คุณ Newbies แนบมา
ทำไมเวลากดที่รูปสามเหลี่ยม เพื่อดู filter ของ Query แล้วไม่มีขึ้นอะไรมาให้เลือกเลยอ่ะครับ

ที่บางรายการมีให้เลือก ติ๊กด้านล่างได้ แต่อีก คอลัมน์ไม่สามารถติ๊กเลือกได้ เพราะ ข้อมูลมีความหลากหลายของข้อมูลในคอลั้มน์นั้นมากเกินไป ถ้าต้องการ Filter ก็กด ไปพิมพ์ Filter เอาได้ครับ แต่แบบติ๊กเลือกไม่มีให้ใช้

อ้างจาก: Newbies ที่ 08 พ.ค. 61 , 12:09:54

ผมใช้ SELECT Final2.*, SumHR2.* คือเอาทุกฟิลล์มาแสดง แล้วไปกำหนด is not null แต่ละฟิลล์อีกที

ส่งไฟล์ตัวอย่างให้ทางเมลแล้วนะครับ

ทดลอง Export แล้ว ไม่มีติด Error ใดๆนะครับ

กำหนดว่า ถ้า อันใดอันหนึ่ง is not null ก็ให้แสดง ODNo ครับ แบบนี้


SQL ก็แบบนี้
SELECT Final2.*, SumHR2.*
FROM Final2, SumHR2
WHERE CostQIns IS NOT NULL
 OR  CostQCut IS NOT NULL
 OR  CostQIron IS NOT NULL
 OR  CostQPack IS NOT NULL
 OR  CostQQc IS NOT NULL
 OR  CostQSaw IS NOT NULL;

หรือ อีกแบบ
SELECT Final2.*, SumHR2.*
FROM Final2, SumHR2
WHERE CostQIns or CostQCut or CostQIron or  CostQPack or CostQQc or CostQSaw IS NOT NULL;