ข้อที่ 1 ผมมีข้อมูลอยู่ 70 เรคคอด เอามาทำ รายงาน โดยที่ในแต่ละหน้า ต้องการเพียงแค่ 15 เรคคอด
(จากตัวอย่าง 2 เรคคอร์ดนะครับแก้เป็น 15 แทน)
http://www.databasedev.co.uk/report_printing.html

ข้อที่ 2 ขึ้นหน้าใหม่ โดยแต่ละหน้า มีบรรทัด Sum ด้วย

    Option Explicit     
    Dim curTotal As Currency 'กำหนดตัวแปรไว้บนสุดของโค้ด
ตรงส่วนของ PageHeader เลือกEvent  Format ใส่
    curTotal = 0             'กำหนดให้เท่ากับ 0 เมื่อขึ้นหน้าใหม่
ตรง  DetailSection เลือก Event  Print  ใส่
    If PrintCount = 1 Then
    curTotal = curTotal + Me.Amount  'Me.Amount คือชื่อ textbox
    End if
สร้าง  unbound control ตั้งชื่อ  PageTotal ใส่ Page Footer
ตรง PageFooter's Format ใส่
     Me.PageTotal = curTotal

  เครดิต Allen Browne.
http://allenbrowne.com/ser-11.html

สวัสดี ขอถามท่านอาจารย์ เกี่ยวกับการทำรายงานแบบมีเงื่อนไข คือผมอยากเลือกสาขา และ ระหว่างวันที่ หา วันที ครับ ช่วยหน่อยครับมือไหม่
ขอบคุณ ล่วงหน้าครับ

กำหนด เงื่อนไข ให้กับตัวรายงานครับ
สมมุติ Field สาขาชื่อ branch
        Field วันที่ชื่อ DateIn

การกำหนดสาขา ก็สามารถกำหนด Criteria ได้เลยเช่น "สาขา ก" รายงานก็จะแสดงข้อมูลเฉพาะสาขาก ขึ้นมา
ถ้าต้องการ กำหนด วันที่ แบบระหว่างวันที่ เริ่มต้นและวันที่สิ้นสุด กำหนด Criteria Between [StartDate] and [EndDate]

ถ้าต้องการเปิดรายงานโดยอ้างอิงการกำหนดเงื่อนไขบน textbox หรือ คอมโบบ๊อก ก็ใช้การอ้างอิงแบบนี้เช่น
การอ้างอิง สาขาสมมุติชื่อ Combobox1
กำหนดเงื่อนไข Field สาขาให้รายงานดังนี้
Forms![ชื่อฟอร์ม]![Combobox1]

ส่วนการกำหนดเงื่อนไขสำหรับวันที่นั้น ต้องมี Textbox 2 ตัวคือสำหรับกรอกวันที่เริ่มต้น(ชื่อ StartDate)  และวันที่สิ้นสุด(ชื่อ EndDate)
การกำหนดเงื่อนไข Field DateIn ก็จะใส่ Criteria ของรายงานแบบนี้
Between Forms![ชื่อฟอร์ม]![StartDate] and Forms![ชื่อฟอร์ม]![EndDate]

พอดีผมไม่มี SQL เทสที่เครื่อง แต่ถ้าเราใช้การแปลง เป็น Cstr ในกรณีเป็นข้อความ หรือพวก Cint  กรณีเป็นตัวเลข ก่อนนำไป Join กันว่าจะช่วยได้ไหม เช่น

SELECT Employee.ID, Employee.EmployeeCode, Employee.EmployeeName, CStr([EmployeeDivision]) AS EmployeeDivision1, CStr([EmployeeLocation]) AS EmployeeLocation1 FROM Employee WHERE (((CStr([EmployeeDivision]))=[forms]![Form1]![comboDivision]) AND ((CStr([EmployeeLocation]))=[forms]![Form1]![comboLocation]));
โดยในซัพฟอร์ม ตรงControlSource ใส่ EmployeeLocation1 กับ EmployeeDivision1 แทน

ลองดูครับแก้การ Join เป็น text แล้ว
ส่วนที่ต้องแก้คือ จำนวนคอลัมน์  ของ  comboDivision และ comboLocation จาก 2 แก้เป็น 1
ความกว้างคอลัมน์ จาก 0ซม.;5ซม. แก้เป็น 5ซม.

ข้อมูล ยอดเงิน นั้นน่าจะเป็น Datatype text ครับ
ลองใส่
Format([B4], "#,##0.00" )

อาจารย์แนะนำทีครับผมควรทำใงครับ มันขึ้นฟ้องได้ แต่จะสามารถ เบิกได้ครับแลมีค่าติดลบอยู่

ผมสงสัยครับว่าคุณไปสร้างการลบตรงส่วนไหน
ถ้าเราใช้การเช็คแบบนี้
เราคงต้องแก้ไปเป็นแบบนี้
if me.TextAmt> me.Text_remain then
msgbox "คงเหลือไม่พอให้เบิก"
me.TextAmt = null
else
me.Text_remain = DSum("[จำนวน]","[รายการนำเข้าสินค้า]","[รหัสสินค้า]=" & [txt_รหัสสินค้า])-Nz(DSum("[จำนวนสินค้า]","[รายการสินค้า]","[รหัสสินค้า]=" & [txt_รหัสสินค้า]))
end if

ความน่าจะเป็นคือ
ถ้าไม่ผ่านเงื่อนไข
เมื่อรายการเบิกมากกว่าจำนวนที่มี ต้องแจ้งเตือนและให้แสดงรายการเบิกเดิมที่มีขึ้นมา และลบค่าที่กรอกใน TextAmt เพื่อให้กรอกค่าใหม่

ส่วนกรณีเงื่อนไขผ่าน
ก็ให้ทำการคำนวนค่าได้

ปล.ลบสูตรคำนวนที่ ControlSource ของ Text_remain ออกไปก่อนนะครับ

ส่งตัวอย่างมาทาง inbox ผมดูให้ครับ

ลองดัดแปลงเป็นแบบนี้ดูครับ
จากตัวอย่าง Field SortMonthNum เป็น Number นะครับ

Sub Search()
Dim strSearch As String
For Each varItem In Me!lstMonthSort.ItemsSelected
strSearch = strSearch & " Or SortMonthNum=" & "" & Me!lstMonthSort.ItemData(varItem) & ""
Next varItem
If Len(strSearch) = 0 Then
Me.frmqryHRDWH.Form.FilterOn = False
Else

strSearch = Right(strSearch, Len(strSearch) - 3)
Me.frmqryHRDWH.Form.Filter = strSearch
Me.frmqryHRDWH.Form.FilterOn = True
End If
End Sub


แก้เป็นแบบนี้นะครับ

Private Sub Command6_Click()
Dim strTable, SQL As String
strTable = cbUpdateTable
SQL = "INSERT INTO " & strTable & " ( Field1, Field2, Field3 ) values (text1, text2, text3);"
DoCmd.SetWarnings False
DoCmd.RunSQL SQL
DoCmd.SetWarnings True
MsgBox "นำเข้าไปยังตาราง " & cbUpdateTable & " เรียบร้อยแล้ว"
End Sub


แก้ไขใหม่ครับ เขียนอ้างอิงต้องอ้างอิงจากtextbox บนฟอร์ม