แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Mercury

หน้า: 1 [2] 3
19
ก็ Top-N ไงครับ เลือก 3 ก็แสดง 3 เลือก 1 ก็แสดง 1
แล้วการสั่งให้ Sort คือการเรียงลำดับข้อมูลที่ต้องการ
โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Mercury

20
ถ้าเลือก All ก็เป็น All สิครับ
ถ้าเลือก 5 ก็ได้ 5 อันดับแรก
ถ้าใส่ 3 ก็ได้ 3 อันดับแรก

แล้วต้องกำหนดการ Sort ร่วมด้วย
โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Mercury

21
โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Mercury

23
ใช้ Top-N Query ก็น่าจะพอมั๊งครับ
โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Mercury

24
ห้อง MS Access / : การ Split database
« เมื่อ: 13 พ.ย. 62 , 09:01:51 »
ตามข้อกำหนดของ Access บอกว่าสามารถมีการใช้ไฟล์ฐานข้อมูลหนึ่งๆได้พร้อมๆกันที่ 255 หรือ 256 คนนี่แหล่ะครับ ส่วนที่เคยเจอก็ 20 กว่าคนพร้อมๆกัน
โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Mercury

25
ห้อง MS Access / : การ Split database
« เมื่อ: 13 พ.ย. 62 , 01:33:45 »
ไฟล์ A   (หรือเรียกว่า Backend File) จะเก็บเฉพาะเทเบิล  ส่วนไฟล์ B (หรือที่เรียกว่า Frontend File) จะเก็บส่วนอื่นๆนอกเหนือจากเทเบิล  แต่จะสร้าง Linked Table ขึ้นมาแทนเทเบิลที่ได้ย้ายไปยัง A  ซึ่งก็จะโยงไปหาเทเบิลจริงในไฟล์ A นั่นเอง  ดังนั้นการกระทำใดๆกับข้อมูลผ่าน  Linked  Table  ก็คือการทำกับข้อมูลในไฟล์ A ครับ  วิธีนี้คือวิธีที่ถูกต้องในการสร้างระบบใดๆสำหรับ Access ครับ  ไม่เว้นแม้แต่เราทำบนเครื่องเดียว ผู้ใช้เดียว
โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Mercury

26
ทำให้มันเป็นเวอร์ชั่นเดียวกัน เพื่อลดปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นครับ
ที่ผมทำก็คือเปิดไฟล์เก่าด้วยโปรแกรมเวอร์ชั่นใหม่ แล้วบันทึกเป็นเวอร์ชั่นใหม่

สอบถามค่ะถ้าเราใช้ Access 2010 อยู่และอัพเดทโปรแกรมเป็น Version 2013 หรือ Version อื่นๆที่ใหม่กว่า Version ที่ใช้อยู่ปัจจุบัน
จะมีผลต่อกระทบต่อโปรแกรมหรือการใช้งานหรือไม่คะ

ส่วนตัวไม่มีปัญหาอะไรนะครับ
อาจจะเพราะไม่ได้เขียนโปรแกรมซับซ้อน เรียกใช้อะไรพิเศษ

โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Mercury

27
ห้อง MS Access / : การ Split database
« เมื่อ: 11 พ.ย. 62 , 09:07:04 »
กระทู้แนวทางการ Split Database เพื่อใช้งานหลายๆเครื่องครับ
https://www.thai-access.com/yeadram_view.php?topic_id=771
โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Mercury

28
น่าจะได้ แต่ผมไม่กล้ายืนยัน 100% ผมว่าควรเอาโปรแกรมนั้นมาทดลองครับ แต่ที่แน่ๆคือเราต้องจัดฟอร์แมทของข้อมูลให้ตรงตามที่โปรแกรมจะใช้ต้องการเสียก่อน แล้วค่อย export ออกไปครับ
โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Mercury

29
ไปดูโปรแกรมที่จะใช้ดีกว่า ว่าเขาใช้ฐานข้อมูลฟอร์แมทหรือยี่ห้ออะไร จะได้รู้ว่า export ไปได้ง่ายไหม หรือเขาสามารถอ่านฐานข้อมูลของ Access ได้โดยตรงเลยหรือไม่
โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Mercury

30
มันเป็น be คือ database นะครับ
แสดงว่าไม่น่าต้อง convert นะครับ
พอดีเอาไปใช้กับชุด office 2013(ใหม่ขึ้น)
แล้วมันรวนๆนะครับ
ขอบคุณนะครับท่าน @nonc31
โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Mercury

31
ในคิวรี่ หรือบนฟอร์มครับการนำไปเรียกใช้ทำแบบไหน ถ้าใช้ Dmax วันที่ และ GroupBy รหัสสินค้าก็ได้เหมือนกันครับ
ลองดูตัวอย่างด้านล่างนะครับ เป็นการแสดงผลในคิวรี่ โดยเลือกข้อมูลวันที่ล่าสุด ของกลุ่มรหัส มาแสดง
โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Mercury

32
Dlast เป็นญาติกับ  Dlookup
https://www.thai-access.com/index.php?topic=981

Top-N ก็สร้างคิวรี จะมีคำสั่งอยู่บนริบบ้อน

โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Mercury

33
ใช้คำสั่ง DLast หรือ Top-N Query ตามแต่รูปแบบของงานครับ
โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Mercury

34
ผมชื่นชมการตั้งกระทู้แบบนี้ครับ
มีการตั้งโจทย์สอบถามเป็นขั้นเป็นตอนมีการยกตัวอย่างด้วยรูป
และบอกถึงปัญหาที่พบ หรือ ผลลัพธ์ที่อยากได้ อย่างชัดเจนง่ายต่อการตอบมากๆ ครับ  :grin: :grin:
ท่านอื่นถ้าสะดวก ตั้งกระทู้แบบนี้จะดีต่อผู้ตอบและคนตอบจะได้คำตอบที่รวดเร็วครับ
โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Mercury

35
แก้เป็น
โค๊ด: [Select]
Me.PackPerPallet = DLookup("[PackQuantity]", "[Packing]", "Number='" & [SizeOfCarton] & "'")
โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Mercury

36
แนะนำให้ใช้ Me.ToTalWeight = Nz([cal2], 0) + 0
และเพิ่มเดิมนั่นคือมีการเรียกใช้ CalculateTotal คำนวนชุดล่างอยู่แล้ว ดังนั้นชุดบนเปลี่ยนชื่อสักนิดตามรูปตัวอย่างครับ


โค๊ด: [Select]
Private Sub WeightPerPack_AfterUpdate()
Call CalculateTotal2
End Sub
Private Sub WeightPallet_Afterupdate()
Call CalculateTotal2
End Sub
Private Sub PackPerPallet_Afterupdate()
Call CalculateTotal2
End Sub

Sub CalculateTotal2()
Dim cal1, cal2 As Double
cal1 = Nz([WeightPerPack], 0) * Nz([PackPerPallet], 0)
cal2 = Nz([cal1], 0) + Nz([WeightPallet], 0)

Me.ToTalWeight = Nz([cal2], 0) + 0
End Sub
โพสต์นี้ได้รับคำขอบคุณจาก: Mercury

หน้า: 1 [2] 3