การทำประกันชีวิตให้พ่อแม่
ประกันชีวิตผู้สูงอายุ นับเป็นเรื่องจำเป็นเพราะถือว่าเป็นการเตรียมความพร้อมในการดูแลพ่อแม่ในยามเจ็บไข้ได้ป่วยหรือแม้แต่เกิดเหตุไม่คาดคิดไม่คาดฝัน ต่อให้วันช่วงเวลานั้นไม่มีรายได้หรือเงินเก็บก็เบาใจ เพราะประกันชีวิตที่เลือกจะช่วยคุ้มครองแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าแพทย์และอื่น ๆ ตามกรมธรรม์ที่เลือก อย่างไรก็ตามยังเป็นข้อสงสัยกันอยู่ว่า ทําประกันให้พ่อแม่
ประกันโรคร้ายแรง แบบไหนดี เนื่องจากมีให้เลือกอยู่หลายประเภท วันนี้มาไขข้อสงสัยกันในประเด็นนี้
พิจารณารูปแบบของการทำประกันก่อน ทำประกันให้พ่อแม่ปัจจุบันมีรูปแบบประกันชีวิตให้เลือกตามความเหมาะสมของช่วงวัย ยกตัวอย่างเช่น
ประกันสะสมทรัพย์ เหมาะกับพ่อแม่อายุไม่เกิน 70 ปี เป็นประกันเพื่อการออมเงินเป็นหลัก เมื่อนำแผนกรมธรรม์ ประกันสะสมทรัพย์ เปรียบเทียบ กับประกันอื่น ๆ จุดเด่นคือจ่ายเบี้ยแบบสบาย ๆ ผลตอบแทนนอกจากจะได้รับเงินก่อนแล้วเมื่อสัญญาครบแล้ว ระหว่างสัญญาก็จะได้รับเงินคืนเป็นเงินปันผล และ ประกันสะสมทรัพย์ลดหย่อนภาษี ได้ด้วย โดยวันนี้มีให้เลือกหลายแผนกรมธรรม์จากธนาคารกรุงไทย เช่น
ประกันสะสมทรัพย์ Life Super Save 14/5 แผนประกันชำระเบี้ยระยะสั้นเพียง 5 ปี คุ้มค่าด้วยความคุ้มครองยาวนานถึง 14 ปี จุดเด่นคือสามารถรับเงินได้ตั้งแต่ทำประกันในปีแรก เป็น ประกันสะสมทรัพย์ลดหย่อนภาษี
ประกันสะสมทรัพย์ LifePlus Saver 25/15 แผนประกันที่เลือกชำระเบี้ยได้ 2 แบบ คือ
1.จ่ายเบี้ย 10 ปี คุ้มครอง 20 ปี
2.จ่ายเบี้ย 15 ปี คุ้มครอง 25 ปี
โดยจุดเด่นคือให้ความคุ้มครองการเสียชีวิตด้วย โดยจ่ายเป็นเงินก้อน 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัยรวมกับเบี้ยประกันภัยหลักที่ได้ชำระมาทั้งหมด
ประกันชีวิตผู้สูงอายุ เหมาะกับพ่อแม่ที่มีอายุตั้งแต่ 50-70 ปี เนื่องจากเป็นช่วงวัยเกษียณ ไม่มีเงินเดือน ขาดรายได้ หากเกิดเหตุไม่คาดคิดไม่ต้องออกค่ารักษาพยาบาลเพราะการทำประกันชีวิตผู้สูงอายุที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมจึงถือว่าตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างดี ทั้งนี้ยังสะดวกสบายไม่ต้องตรวจหรือตอบคำถามสุขภาพใด ๆ
จะเห็นว่าเพื่อตอบโจทย์ความต้องการก่อนเลือก ซื้อประกันให้พ่อแม่
ประกันสุขภาพเหมาจ่าย ควรพิจารณาแผนกรมธรรม์ของ ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เปรียบเทียบ กับ ประกันชีวิตผู้สูงอายุ 50 ปีขึ้นไป เพื่อเห็นความแตกต่างที่ชัดเจน อย่างในด้านของเบี้ยประกัน ประกันชีวิตผู้สูงอายุ 50 ปีขึ้นจะมีค่าเบี้ยสูงกว่า ยิ่งเลือกวงเงินเอาประกันสูง เบี้ยประกันก็จะสูงตามไปด้วย การพิจารณาก่อนตัดสินใจทำจะช่วยให้คุณบริหารค่าใช้จ่ายในการจ่ายเบี้ยประกันได้อย่างสบายใจ ที่สำคัญพ่อแม่ได้รับความคุ้มครองในยามป่วยไข้หรือเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน รองรับทุกความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในชีวิตได้อย่างดี
